วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

เรียนภาษาเกาหลีที่ไหนดีนะ 2

กลับมาแล้วจร้าาาาาาา
จากโพสที่แล้วที่พูดถึงมหาวิทยาลัยสอนภาษาเกาหลีที่ประเทศเกาหลี ตามไปดูได้ที่
เรียนภาษาเกาหลีที่ไหนดีนะ 1

มาวันนี้นะคะ เราได้เลือกมหาลัยที่อยากเรียนเรียบร้อยแล้วว
นั่นก็คือ มหาวิทยาลัย ซองกยุนกวาน หรือ Sungkyunkwan University นั้นเองงงง

SKKU เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ เป็นมหาลัยแห่งแรกในเกาหลี
มีมาตั้งแต่สมัยโชซอน  ก่อตั้งเมื่อปี 1398
ปัจจุบันมหาลัยนี้อยู่ในอุปการะของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใครๆก็รู้จักกันทั่วโลก
คือบริษัทซัมซุงนั่นเองค่ะ

เป็นมหาวิทยาลัย ท็อป 10 ในประเทษเกาหลี ติดอันดับที่ 17 ของเอเชีย และอันดับที่ 118 จากอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกโดย the QS worldwide university rankings 

และเมื่อปี 2013 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยซองกยูนกวาน วิทยาเขตซูวอน จังหวัดคยองกี อ้างอิงจากข่าว SKKU

และที่เลือกมหาลัยนี้อีกนอกจากเป็นที่ยอมรับเรื่องภาษาพอๆกับยอนเซ และตารางเรียนที่หนักพิเศษกว่าชาวบ้านมหาลัยอื่นๆ ก็คือไม่ค่อยมีคนเอเชียเรียนเท่าไหร่ ประมาณว่าคนเรียนน้อยค่ะ อาจเพราะมันไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองอย่าง ซอกัง ยอนเซ หรืออีฮวา นั่นเอง 

และมหาลัยนี้เรื่องเยอะพอสมควรค่ะ requirement เอกสารเยอะมากกว่าที่อื่นยังไงไม่รู้
อีเมลไปกว่าจะตอบก็ช้ามากกกกกกกก แถมโบราณสุดๆคือต้องส่งใบสมัครผ่านไปรษณีย์เท่านั้น อีผี!!! 
ที่อื่นเขาส่งกันอัพโหลดเป็น Online application กันทั้งนั้น แถมในข้อจำกัดมันบอกอีกนะว่าต้องส่งภายในเวลาที่เปิดรับสมัครเท่านั้น คือเปิดโคตรใกล้อ่ะ กว่าจะส่งกว่าจะตอบรับ กว่าจะจ่ายตัง แม่งทำวีซ่าอีก มันทันไหมล่ะ 

เราก็เมลล์ไปเยอะมากค่ะ เป็นสิบๆ เมลเลย 
เรื่องการลงเรียน ได้ความว่าต้องส่งใบสมัครผ่าน Post เท่านั้น และเอกสารทั้งหมดที่ส่งมาจะไม่ได้คืนค่ะ
และถ้าต้องการทำวีซ่า D-4 ต้องสมัคร 2 Sessions ขึ้นไป ซึ่งเรากะสมัคร 3 Sessions อยู่แล้ว
เราเลยสรุปไปให้นางว่าเอกสารที่ต้องส่งสมัครมีอะไรบ้าง รายละเอียดตาม LINK นี้เลย

เอกสารสำหรับการสมัคร

1. ใบสมัคร (สามารถดาวน์โหลดได้)
2. ใบเรียนจบของมหาวิทยาลัยที่เรียนล่าสุด ตัวจริง
3. Transcript ตัวจริง
4. สำเนาสูติบัตร พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
5. สำเนาพาสปอร์ต
6. ภาพถ่าย 4 สี 3x4 CM
7. สำเนาบัตรประชาชนตัวเองและพ่อแม่ พร้อมแปลภาษาอังกฤษ
8. An original bank certificate of deposit balance (หนังสือรับรองบัญชีเงินฝาก) ภาษาอังกฤษออกโดยธนาคารเจ้าของบัญชี โดยต้องมีเงินในสมุดบัญชีไม่ต่ำกว่า 9,000 USD
9. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากทุกหน้า

*ข้อ 8 และ 9 จะเป็นของเราหรือของพ่อแม่เราก็ได้ค่ะ
**ข้อ 2,3,4 และ 7 ต้องได้รับการรับรองเอกสารจากกงศุลต่างประเทศและสถานฑูตเกาหลีด้วยนะคะ

ทั้งหมดมีเท่านี้ค่ะ แต่ทางมหาลัยส่งกลับมาว่า ยูต้องมีข้อง 10 ด้วยนะ นั่นก็คืด Letter of Korean sponsor(s) in Korea.

What The Fxxxxxxx!!!! 
บ้าหรือเปล่า บ้าไปแล้ว
จะไปหาสปอนเวอร์ที่เป็นคนเกาหลีและอาศุยอยู่ที่เกาหลีได้ยังไง บ้าเหรอ
นึกออกใช่ป้ะ ลองคิดดูค่ะว่าถ้าคุณกำลังจะไปเรียนเมืองนอกประเทศใดก็แล้วแต่ คุณจะไปรู้จักคนประเทศนั้นได้อย่างไร ถึงรู้จัก เขาก็ไม่เซ็นเป็น Sponsor ให้หรอกป้ะ
เพราะมานคือ Letter of guarantee ข้อตกลงว่าถ้าเราทำผิดกดหมายเกาหลี หรือไม่มีเงินที่จะเรียนต่อ คนๆนั้นจะรับผิดชอบ อารมณ์เหมือน Guardian อ่ะค่ะ

จะมีไหมละคะ มีเพื่อนมีคนรู้จักเป็นคนเกาหลีค่ะ แต่เขาไม่มาการันตีให้กูหรอกไหม เกิดไรขึ้นทำไมต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่ญาติสักหน่อย
เลยส่งกลับไปค่ะว่า สปอนเซอร์ของกูเนี้ยคือพ่อแม่ และกูเปนคนไทย ฉะนั้นพ่อแม่กูเนี้ยก็เป็นคนไทย ส่งกูเรียนมาตั้งแต่ประถมแล้ว กูจะไปหาคนเกาหลีจากไหน เข้าใจผิดหรือเปล่า ใช้พ่อแม่เซ็นฟอร์มนี้ได้ไหม และแนบพาสปอร์ตไป และให้กงศุลกับสถานฑูตรับรอง

นางตอบกลับมาว่า ถ้าทำแบบนั้นเอกสารการสมัครของเราจะไม่สมบูรณ์ มีผลต่อการคัดเลือกของคณะกรรมการ *พ่องงงงงงงงงสิ

เราเลยหาที่เรียนใหม่ไว้เผื่อเลยค่ะ 555
และหาข้อมูลทุกอย่าง ถามจากเอเจนซี่ คิดในใจว่าทำไมต้องใช้ว่ะ แบบนี้จะมีใครไปเรียนมหาลัยเมิงไหมล่ะ แต่ก็ค่ะ ด้วยความที่พอเห็นแบบนี้กูยิ่งต้องเข้าเรียนที่นี่ให้ได้!!!! เพื่ออนาคตของกู ไม่งั้นต้องเรียนช้อไปอีกครึ่งปีเลยนะเฟร้ยยยย!!!

ทุกเอเจนซี่ที่ถามตอบกลับมาหมดเลยค่ะว่า สงสัยเป็นกฎใหม่เพิ่งเพิ่มมา แหมอะไรจะซวยขนาดนี้ เราเลยไปตามดูรายละเอียดต่างๆ ของการทำวีซ่า กดหมายการทำวิซ่าเกาหลี ทั้งหมด (มีประมาณ 20 หน้า) และทำให้เราสรุปได้ว่า อี Letter of guaratee เนี้ย มันคือคนการันตีเรา แต่ไม่ต้องเป็นคนเกาหลีก็ได้ และไม่ต้องอยุ่เกาหลีก็ได้ คือ พ่อแม่เรานี่แหละค่ะ เพียงแต่ให้แนบหลักฐานทางการเงิน และการทำงานไปด้วยค่ะ เช่นคนที่การันตีเราทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไหร่ ก็ต้องมีแนบมาและต้องรับรองจากกงศุลอีกเช่นเคย และประจวบเหมาะที่เอเจนซี่ชื่อดังแห่งนึงตอบอีเมลลมาพอดีค่ะว่า คนการันตีไม่จำเป็นต้องเป็นคนเกาหลีค่ะ สามารถให้พ่อแม่ได้ จบ

แอดมินมหาลัยนี้ดูงงๆ ไม่เข้าใจ ไม่ดูแลเลย แย่มาก แต่ทำไงได้ ยังไงก้ต้องเรียนที่นี่ ไม่งั้นอาจจะเข้ามหาลัยไม่ทันปีหน้าก็เป็นได้ เอาล่ะ

สรุปเอกสารที่เพิ่มมาก็คือ

1. หนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท (กรณีที่พ่อแม่เราเป็นเจ้าของธุรกิจ) หรือหนังสือรับรองการเป็นพนักงานพร้อมเงินเดือนที่ได้รับ
2. สำเนาพาสปอร์ตของผู้การันตี
3. แบบฟอร์ม Letter of Guarantee. หรือ Letter of Sponsorships.

* ทั้ง 3 อย่างนี้ต้องให้กงศุลและสถานฑูตรับรองเอกสารและประทับตราด้วยนะคะ และให้แนบไปพร้อมกับ Statement ของบัญชีที่เราจะยื่นนะ

ทีนี้ก็ทำการเตรียมเอกสารค่ะซึ่งเรามีครบทุกอย่างแล้วค่ะ
โดยแผนของเราก็คือ จะเรียน Short-course 3 weeks ก่อนค่ะ เริ่ม 1 ส.ค. 59
แล้วค่อยเริ่ม Regular course อีก 3 เทอม เริ่มกันยา และจบเทอม 3 ที่ 24 กุมภา 2017
ตอนนั้จะลองสอบโทปิกและยื่นทุน KGSP อีกครั้งดูค่ะ ถ้าไม่ได้ก็เรียนเองแบบเสียเงินนี่แหละค่ะ 555
โดยเราคิดว่าจะเรียนช่วง Spring Semester ค่ะ
มหาลัยอะไรเดี๋ยวว่ากันอีกที ตอนนี้ดู Dongguk University กับ Korea University ไว้ค่ะ
แต่ถึงตอนนั้นเดี๋ยวเราค่อยคิดก็ได้เนาะ 555555

Short Course เราเลือกเรียนที่เดียวกับ regular ค่ะ คือ SKKU นั่นเอง
จริงๆอยากเรียนซอกังนะแต่มันไม่มีค่ะ ฮาา



ค่าเรียน Short Course คือ 710,000 KRW ค่ะ ไม่รวมค่าหนังสือเรียน
เริ่มเรียน 1 Aug - 22 Aug 2016 ค่ะ

ตอนนี้เอกสารรอ Statement ขอผู้ปกครองอย่างเดียวค่า
แล้วก็ไปรับรองเอกสารทั้งหมดที่กงศุล และสถานฑูต
สุดท้ายถ้าเอกสารมีปัญหาอะไรก็คงไปเรียนที่ซอกังแระ เหนื่อยกะมัน ฮ่าๆๆๆ

ไว้ถ้าผ่านหรือไม่ผ่านยังไง และสรุป ได้ไปเรียนที่ไหนจะมาเล่าให้ฟังในโพสหน้านะจ้าาาา
อย่าลืมกด like Facebook Fanpage ด้วยน้าาาา
LittleMonster

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น